The Witcher: Nightmare of the Wolf รีวิว – การผจญภัยสุดระห่ำของลุง Vesemir

The Witcher: Nightmare of the Wolf มีกำหนดฉายจริงๆ วันที่ 23 สิงหาคมนี้ทาง Netflix นะครับ ทว่าทางผมในนามของ Online Station ได้รับเกียรติจากทาง Netflix ให้สามารถรับชมได้ก่อน ซึ่งจะมารีวิวให้ฟังกันคร่าวๆ แต่ขอบอกเลยว่าไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน The Witcher ก็สามารถรับชมได้เช่นกัน.

The Witcher: Nightmare of the Wolf
“ก่อนจะมี Geralt เรามี Vesemir” อย่างที่หลายๆ คนรับรู้จากการโปรโมตกันครับว่า Nightmare of the Wolf จะเป็นเรื่องราวของลุง Vesemir อาจารย์ของ Geralt ในวัยหนุ่ม ซึ่งอาจจะมีภาพลักษณ์ต่างออกไปจากที่เคยเห็นแกมาโดยสิ้นเชิง เพราะในเกมเห็นสุขุมแบบนั้นแต่ในวัยหนุ่มของลุงแกก็แสบสันต์พอๆ กับลูกศิษย์นั่นแหละครับ

Vesemir ลุงไม่กี่คนที่เราจะหลงรัก
ก่อนอื่นเลย Nightmare of the Wolf เหมือนพยายามจะเป็นกึ่งๆ เรื่องราวแสตนอโลนที่ผู้ชมไม่จำเป็นต้องคลุกคลีกับสื่อไหนๆ ของ The Witcher ก็สามารถรับชมได้ แต่การที่ตัวเรื่องจับเอาช่วงเวลา “สำคัญ” ก่อนซีรีส์และเกมจะเริ่มมาเล่าให้ฟัง ก็ทำให้ผู้ชมสามารถมองมันเป็นภาค Prequel ได้ด้วยเช่นกัน

อนิเมชั่นเรื่องนี้เล่าเรื่องราวในภาพรวมของ Vesemir วิทเชอร์ชื่อดังผู้เห็นแก่เงินตั้งแต่วัยเด็กจนโต และเลือกจะแตะแค่ประเด็นหลักๆ อย่างเหตุผลในการมาเป็นวิทเชอร์ ทำไมจึงชอบเงิน หรือวิถีชีวิตความเป็นวิทเชอร์ในแบบของตัวเองเท่านั้น ในแง่ของเรื่องราวที่ละเอียดอ่อนกว่ากลับไม่ค่อยได้ลงไปลึกเท่าไหร่ การขยายความเข้าใจในโลกของวิทเชอร์ก็เพิ่มขึ้นแค่ในระดับหนึ่ง ไม่มากไม่มาย ส่วนใหญ่เป็นอะไรที่หลายๆ คนคุ้นเคยกันในเกมหรือซีรีส์อยู่แล้ว แต่ถูกนำกลับมาเล่าซ้ำและเพิ่มเติมนิดหน่อยให้เข้ากับบริบทของตัวเรื่อง ในแง่หนึ่งจะมองว่ามันตื้นเขินดูง่ายก็ได้ หรือจะมองว่ามันเป็นการอุ่นเครื่องก่อนซีซั่น 2 มาปลายปีก็ไม่ผิดแต่อย่างใด

ทั้งนี้ถ้าเทียบกับซีรีส์แล้ว อนิเมชั่นตัวนี้ถือเป็นงานเบาที่เสพย์ได้ง่ายและมีความตรงไปตรงมามากกว่า อาจด้วยเวลาที่มีจำกัด ทำให้ทางผู้สร้างเลือกจะเล่าเรื่องแบบไม่ต้องมีเทคนิคอะไรมากมาย เน้นกระชับฉับไว เพื่อเข้าสู่สิ่งที่ดีที่สุดของภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้นั่นก็คือ ฉากต่อสู้นั่นเอง

ถ้าจะบอกว่าฉากต่อสู้คือตัวแบกและเติมความไฮป์ให้กับหนังทั้งเรื่องก็คงไม่ผิดนัก ถ้าใครรู้สึกว่าอยากหาเอเลเมนต์อะไรที่หลุดจากกรอบของซีรีส์ เกม หรือนิยายต้นฉบับก็ต้องฉากต่อสู้นี่แหละ มีครบทั้งความฉับไว ลื่นไหล ดุดัน และเต็มไปด้วยฉากรุนแรงเลือดสาดอวัยวะขาดแบบจัดเต็ม โดยถ้าใครเสพย์ The Witcher จากสื่ออื่นๆ มาก่อนก็น่าจะชินตากับการใช้ Sign ของวิทเชอร์ ที่เป็นเวทมนต์ขั้นเบามีไว้เพื่อเสริมการต่อสู้หรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น และห่างชั้นกับเวทมนต์จริงๆ ของแม่มดอยู่เยอะ

เราอาจจะได้เห็นความรุนแรงขึ้นมาหน่อยในซีรีส์ที่ Geralt ใช้ Aard Sign อัดสัตว์ประหลาดจนปลิวไปหลายเมตร แต่ผมบอกเลยว่า Aard Sign ที่เหล่าวิทเชอร์ในเรื่องใช้แต่ละทีนี่อานุภาพอย่างกับดราก่อนบอxเลยทีเดียวครับ ทั้งดูรุนแรงทรงพลัง ไม่ใช่พลังที่ไว้ใช้แค่แก้ไขปัญหา แต่มันคือพลังที่ใช้เพื่อทำลายหรือสังหารศัตรูได้ในการปลดปล่อยเพียงครั้งเดียว

แน่นอนว่ามันหลุดธีมไปหน่อย แต่ส่วนตัวแล้วนี่มันคือรสชาติการตีความของอนิเมชั่นดัดแปลงที่ผมต้องการ มันสด มันใหม่ และโคตรมันส์ โดยเฉพาะองค์สุดท้ายที่พอจบแล้วผมแทบจะเรียกหาซีรีส์ซีซั่นที่ 2 ในทันที เป็นความไฮป์เกินเบอร์ที่ถูกไดรฟ์จากมวลอารมณ์ของความสนุกตื่นเต้นในระดับที่มากมายกว่าความคาดหวังแรกไปพอสมควร และถ้าจะสรุปง่ายๆ ว่าอนิเมชั่นเรื่องนี้ทำเกินความคาดหวังผมไปเยอะก็คงไม่ผิดอะไร

และแม้ว่าพอความไฮป์จางลงเมื่อสติกลับมา พิจารณาถี่ถ้วนแล้วมันก็ยังมีจุดบกพร่องให้หักคะแนนอยู่ประมาณหนึ่ง แต่ความรู้สึกที่ได้รับหลังดูจบก็เป็นความจริงที่เกิดขึ้นและไม่อาจมองข้ามเช่นกัน ดังนั้นใครที่เป็นแฟน The Witcher หรือชื่นชอบอนิเมชั่นตัวเอกผจญภัยปราบปีศาจที่มีจุดเด่นในด้านของฉากต่อสู้สุดมันส์จึงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

The Witcher: Nightmare of the Wolf มีกำหนดฉายวันที่ 23 สิงหาคมนี้ทาง Netflix ครับ

สนับสนุนโดย >>> @vip123s

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >>> มังงะ